CFDs เป็นผลิตภัณฑ์ตราสารที่มีความซับซ้อน ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินลงทุนอย่างรวดเร็วจากการใช้เลเวอเรจ นักลงทุนควรทำความเข้าใจ CFDs และพิจารณาว่าคุณสามารถรับความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทุนของคุณได้หรือไม่

Icon close
  • Tenga en cuenta que el sitio web está destinado a personas que residen en jurisdicciones donde el acceso está permitido por ley. STARTRADER y sus entidades afiliadas no están establecidas ni operan en su jurisdicción de origen. Al invertir a través de este sitio web, es importante comprender que no está regulado por la Comisión Nacional del Mercado de Valores (CNMV) y usted no tendrá las protecciones que brinda la CNMV.

    Si decide continuar y visitar este sitio web, reconoce y confirma lo siguiente:

    1. STARTRADER no tiene sede en España ni licencia de la CNMV.
    2. Usted accede al sitio web por iniciativa propia y STARTRADER no se lo ha solicitado de ninguna manera.
    3. Desea obtener información de este sitio web, que se proporciona mediante solicitud inversa de acuerdo con las leyes de su jurisdicción de origen.
    4. Invertir a través de esta web no te otorga las protecciones previstas por la CNMV.
    5. Si decide invertir a través de este sitio web o con cualquiera de las entidades de STARTRADER, estará sujeto a las normas y regulaciones de las autoridades reguladoras internacionales pertinentes, no a la CNMV.

    STARTRADER quiere dejar claro que se encuentra debidamente licenciado y autorizado para ofrecer los servicios y productos financieros derivados enumerados en el sitio web. Las personas que acceden a este sitio web y registran una cuenta comercial lo hacen por su propia voluntad y sin solicitud previa.

    Al confirmar su decisión de continuar e ingresar al sitio web, por la presente afirma que esta decisión fue iniciada únicamente por usted y que ninguna entidad de STARTRADER ha realizado ninguna solicitud.

  • Si prega di notare che il sito web è destinato a individui residenti in giurisdizioni dove l'accesso è permesso dalla legge. STARTRADER e le sue entità affiliate non sono né stabilite né operanti nella vostra giurisdizione di residenza. Quando si investe tramite questo sito web, è importante comprendere che non è regolamentato dalla Commissione Nazionale per le Società e la Borsa (CONSOB), e non si avranno le protezioni offerte dalla CONSOB.

    Se si sceglie di procedere e visitare questo sito web, si riconosce e si conferma quanto segue:

    1. STARTRADER non ha sede in Italia né è autorizzata dalla CONSOB.
    2. Si sta accedendo al sito web di propria iniziativa e non si è stati sollecitati in alcun modo da STARTRADER.
    3. Si desidera ottenere informazioni da questo sito web, che sono fornite su base di sollecitazione inversa in conformità con le leggi della propria giurisdizione di residenza.
    4. Investire tramite questo sito web non concede le protezioni fornite dalla CONSOB.
    5. Se si sceglie di investire tramite questo sito web o con una qualsiasi delle entità STARTRADER, si sarà soggetti alle regole e ai regolamenti delle relative autorità di regolamentazione internazionali, non alla CONSOB.

    STARTRADER desidera chiarire che è debitamente autorizzata e abilitata ad offrire i servizi e i prodotti derivati finanziari elencati sul sito web. Gli individui che accedono a questo sito web e registrano un conto di trading lo fanno completamente di loro iniziativa e senza sollecitazioni precedenti.

    Confermando la vostra decisione di procedere ed entrare nel sito web, affermate che questa decisione è stata iniziata esclusivamente da voi, e che non è stata fatta alcuna sollecitazione da parte di alcuna entità STARTRADER.

  • Thank you for visiting our website. Please note that our platform is intended solely for individuals residing in jurisdictions where the distribution and use of such information are legally permitted. STARTRADER and its affiliates do not engage in business activities in jurisdictions where such practices are restricted or prohibited by law.

    By selecting "Acknowledge" you confirm that your access to this site is entirely self-initiated and not a result of any promotional activities conducted by STARTRADER. You are seeking information based on your own initiative, in accordance with the principles of reverse solicitation as applicable under the laws of your jurisdiction.

CFDs เป็นผลิตภัณฑ์ตราสารที่มีความซับซ้อน ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินลงทุนอย่างรวดเร็วจากการใช้เลเวอเรจ นักลงทุนควรทำความเข้าใจ CFDs และพิจารณาว่าคุณสามารถรับความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทุนของคุณได้หรือไม่

ภาษา

12 กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ไม่ควรพลาดในปี 2024 ที่มือใหม่ต้องศึกษา

การเทรดตลาดเงินตราต่างประเทศ หรือ Forex นักเทรดหลาย ๆ ท่านนิยมใช้กลยุทธ์การเทรดหลายแบบเพื่อช่วยในการวิเคราะห์ตลาดและการตัดสินใจในการซื้อขาย การเทรดทางเทคนิคไม่ได้รับรองว่าจะสามารถทำกำไรได้ทุกครั้ง แต่มันสามารถช่วยให้นักลงทุนมีความเข้าใจที่มากขึ้นเกี่ยวกับตลาดและช่วยในการตัดสินใจที่มีเหตุผลมากขึ้น 

สำหรับบทความนี้ STARTRADER รวม 12 กลยุทธ์การเทรด Forex ที่เป็นที่นิยมในกลุ่มนักเทรดมาให้ทุกท่านได้ศึกษา เพื่อปูทางความสำเร็จของท่านให้ง่ายยิ่งขึ้นในปี 2024 นี้

1.Trend Trading การซื้อหรือขายตามทิศทางของตลาดที่เป็นแนวโน้ม

12 กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ไม่ควรพลาดในปี 2024 ที่มือใหม่ต้องศึกษา

เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ให้ความสำคัญกับการรับมือกับแนวโน้มหรือการเคลื่อนไหวของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในทิศทางเฉพาะ นักเทรดใช้กลยุทธ์นี้โดยการศึกษาแนวโน้มที่แน่นอนและการทำธุรกรรมตามทิศทางนั้นๆ 

การทำงานของ Trend Trading 

– การเทรดแบบตามแนวโน้มเริ่มต้นด้วยการระบุแนวโน้มที่ชัดเจน โดยใช้เครื่องมือการวิเคราะห์เช่น แผนภาพแท่งเทียน หรือตัวชี้วัดทางเทคนิค เพื่อูแนวโน้มของตลาดว่าเป็นแนวโน้มขึ้น (Uptrend) หรือแนวโน้มลง (Downtrend)

-เมื่อระบุแนวโน้มได้ นักเทรดจะทำการซื้อหรือขายตามทิศทางของแนวโน้มนั้นๆ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

-กำหนดระดับการหยุดขาดทุนและการจัดการขนาดตำแหน่งเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

ข้อดีของการเทรดแบบตามแนวโน้ม

-มีแนวโน้มที่ชัดเจน นักเทรดสามารถมองเห็นโอกาสทำกำไรในระยะยาว

-โดยทั่วไปแล้วการเทรดตามแนวโน้มมักจะมีโอกาสทำกำไรมากกว่าการเทรดในระยะสั้นๆ

ข้อเสียของการเทรดแบบตามแนวโน้ม

-แม้แนวโน้มจะเป็นอย่างชัดเจน แต่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่ไม่คาดคิดทำให้ตลาดเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว

-หากนักเทรดไม่สามารถระบุแนวโน้มอย่างถูกต้อง อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียทุนในระยะยาว

2.Range Trading การซื้อขายในช่วงราคาที่มีการเคลื่อนไหวน้อย ๆ ระหว่างราคาสูงสุดและต่ำสุด

12 กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ไม่ควรพลาดในปี 2024 ที่มือใหม่ต้องศึกษา

 

กลยุทธ์การซื้อขายที่นักลงทุนทำการซื้อในราคาต่ำและขายในราคาสูงขณะที่ตลาดอยู่ในช่วงที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างราคาสูงสุดและต่ำสุด การซื้อขายสามารถทำได้หลายครั้งในช่วงราคานั้นๆ เพื่อกำไรจากความแตกต่างของราคาในช่วงนั้น

การทำงานของ Range Trading

-ต้องระบุช่วงราคาที่มีการเคลื่อนไหวน้อยระหว่างราคาสูงสุดและต่ำสุด โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเช่น แผนภาพแท่งเทียนหรือตัวชี้วัดเพื่อระบุแนวของราคา

-ทำการซื้อที่ราคาต่ำและขายที่ราคาสูงในช่วงราคานั้น ๆ โดยใช้การวิเคราะห์เทคนิคเพื่อระบุจุดเข้าและออกตำแหน่งการเทรด

ข้อดีของ Range Trading

-มีโอกาสทำกำไรในช่วงราคาที่เฉพาะเจาะจง

-เนื่องจากการซื้อขายในช่วงราคาที่มีการเคลื่อนไหวน้อย ๆ นักเทรดมักจะได้รับกำไรที่มีความคงที่

ข้อเสียของ Range Trading

-ตลาดอาจเคลื่อนไหวนอกจากช่วงราคาที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือหาช่วงราคาใหม่

3.Breakout Trading การซื้อหรือขายเมื่อราคาพุ่งขึ้นหรือตกลงมาพร้อมกับการบางครั้งที่เกิดการแตกขอบเขตของราคา

เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่เน้นการเข้าทำการซื้อหรือขายเมื่อราคาของสินทรัพย์ได้พุ่งขึ้นหรือตกลงมา พร้อมกับการเกิดการแตกขอบเขตของราคาที่ระดับที่สำคัญ เป็นที่นิยมในการวางกลยุทธ์ที่อาจมีโอกาสทำกำไรสูงเมื่อมีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างแรง 

หลักการทำงานของ Breakout Trading

-นักเทรดจะต้องรอให้ราคาข้ามขอบเขตที่สำคัญ ซึ่งอาจเป็นเส้น Resistance (ค่าที่สูงสุดที่ราคาเคยทำการเคลื่อนไหวและหันกลับลง) หรือ Support (ค่าที่ต่ำที่สุดที่ราคาเคยทำการเคลื่อนไหวและหันกลับขึ้น) และทำการซื้อหรือขายตามทิศทางของการแตกขอบเขตนั้นๆ

-เมื่อราคาข้ามขอบเขตที่สำคัญ นักเทรดจะทำการซื้อหรือขายตามทิศทางของการแตกขอบเขตนั้นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการแตกขอบเขตนั้นเป็นการเคลื่อนไหวที่แรงและน่าเชื่อถือ

ข้อดีของ Breakout Trading

-เมื่อมีการแตกขอบเขตเกิดขึ้น มักจะมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว นักลงทุนมักสามารถทำกำไรได้ในระยะเวลาที่สั้นๆ

-Breakout Trading ช่วยให้นักลงทุนมองเห็นแนวโน้มการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งช่วยในการตัดสินใจในการซื้อขายที่ง่ายขึ้น 

ข้อเสียของ Breakout Trading

-มีความเสี่ยงที่การเข้าและออกจากตลาดจะเกิดที่ราคาที่สูงกว่า ซึ่งอาจทำให้ลดความคงที่ของการทำกำไร

4.Swing Trading การถือตำแหน่งในระยะเวลายาวนานขึ้นเพื่อกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะยาว

เป็นกลยุทธ์การซื้อขายในตลาดทางการเงินที่นักลงทุนจะถือครองตำแหน่งในระยะเวลายาวนานกว่าแนวโน้มของตลาดที่เปลี่ยนแปลงในช่วงสั้นๆ

หลักการทำงานของ Swing Trading

-ระบุแนวโน้มของตลาด โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น แผนภาพแท่งเทียนหรือตัวชี้วัด เพื่อพยายามจับแนวโน้มที่ยาวนานของตลาด

-ทำการเปิดตำแหน่งการซื้อหรือขายเมื่อพบโอกาสที่ดีในการทำกำไรในระยะเวลายาว และปิดตำแหน่งเมื่อตลาดมีการเคลื่อนไหวตรงกับทิศทางที่ได้ทำการวิเคราะห์ไว้

ข้อดีของ Swing Trading

-Swing Trading เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่สามารถติดตามตลาดในทุกๆ ช่วงเวลาและต้องการระยะเวลาที่ยาวนานในการถือตำแหน่ง

-นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรมากขึ้นเมื่อถือตำแหน่งในระยะเวลายาว 

ข้อเสียของ Swing Trading

-เสี่ยงที่ตลาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือสูญเสียทุน

-การถือตำแหน่งในระยะเวลายาวอาจทำให้เงินทุนถูกกักตัวในตลาดเป็นเวลานานโดยที่ไม่มีการทำกำไร

5.Scalping การทำกำไรจากการซื้อขายที่รวดเร็วในระยะเวลาสั้น ๆ โดยจุดมุ่งหมายคือกำไรจากความแตกต่างในราคาขนาดเล็ก

กลยุทธ์การซื้อขายที่เน้นการทำกำไรจากการเข้า-ออกตลาดอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสั้น ๆ โดยทั่วไปจะถือตำแหน่งเพียงเพื่อกำไรจากความแตกต่างของราคาในช่วงเวลาสั้น ๆ

หลักการทำงานของ Scalping

-นักเทรด Scalping จะทำการซื้อขายบ่อยครั้งในระยะเวลาสั้น ๆ เน้นทำกำไรจากการซื้อขายที่มีความแตกต่างขนาดเล็ก

-อาศัยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น กราฟแท่งเทียน และตัวชี้วัดทางเทคนิค เพื่อระบุจุดเข้าและออกตลาดที่เหมาะสม

ข้อดีของ Scalping

-การซื้อขายที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะเวลาสั้น ๆ ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้รวดเร็ว

-Scalping สามารถทำการซื้อขายในตลาดที่มีความเคลื่อนไหวขนาดเล็กได้ง่าย และสามารถทำกำไรจากความแตกต่างขนาดเล็กของราคา

ข้อเสียของ Scalping

-การทำการเทรดบ่อยครั้งอาจมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่มากขึ้น 

-ตลาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุน Scalping ต้องรีบตัดสินใจและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว

6.Day Trading การเปิดและปิดตำแหน่งในวันเดียวเพื่อกำไรจากความแตกต่างในราคาในเวลาสั้น ๆ

กลยุทธ์การซื้อขายที่ผู้เทรดทำการซื้อและขายสินทรัพย์ในตลาดภายในช่วงเวลาเดียวกัน 

หลักการทำงานของ Day Trading

-นักลงทุนที่ทำ Day Trading มักใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น กราฟแท่งเทียน, Moving Averages, RSI เป็นต้น เพื่อตรวจสอบแนวโน้มและจุดเข้า-ออกตลาดที่เหมาะสม

-เทรดเดอร์จะทำการซื้อขายบ่อยในระยะเวลาเดียวกัน โดยมุ่งเน้นทำกำไรจากความแตกต่างของราคาในช่วงเวลาสั้นๆ

ข้อดีของ Day Trading

-มีโอกาสทำกำไรได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องถือตำแหน่งในตลาดในระยะเวลานาน

-การซื้อขายบ่อยครั้งสามารถช่วยให้นักลงทุนมือใหม่เรียนรู้และพัฒนากลยุทธ์ได้เร็วขึ้น

-เทรดเดอร์สามารถปรับกลยุทธ์หรือออกจากตลาดได้ภายในเวลาสั้นๆ ทำให้เกิดความยืดหยุ่น

ข้อเสียของ Day Trading

-มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่มากขึ้น

-การติดตามตลาดตลอดเวลาอาจทำให้มีความเครียดและต้องใช้เวลาเป็นมาก

7.Position trading การเทรดแบบถือสถานะเทรดเป็นเวลานาน อาจยาวในระดับเดือนหรือถึงปี

เน้นการศึกษาแนวโน้มระยะยาวและการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะยาว 

หลักการทำงานของ Position Trading

-Position Trading จะเน้นที่การถือตำแหน่งในตลาดนานๆ เพื่อกำไรจากแนวโน้มราคาที่เปลี่ยนแปลงในระยะยาว

-ต้องศึกษาแนวโน้มราคาในยาวนานรวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อตลาดในระยะยาว

ข้อดีของ Position Trading

-เทรดเดอร์สามารถทำกิจกรรมอื่นได้พร้อมกับการเทรด

-จุดเข้า-ออกตลาดที่น้อย เน้นกำไรจากแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงในระยะยาว

ข้อเสียของ Position Trading

-การถือตำแหน่งในตลาดนานอาจทำให้เกิดความเครียดเมื่อตลาดมีการเปลี่ยนแปลงและส่งผลต่อตำแหน่งของคุณ

8. Fibonacci Retracement เครื่องมือทางเทคนิคที่ช่วยระบุระดับการกลับตัวของราคา

การวิเคราะห์กราฟราคาในตลาดการเงิน โดยใช้ระดับเส้นทางของ Fibonacci ช่วยในการระบุแนวต้านและแนวรับของราคา 

หลักการทำงานของ Fibonacci Retracement

-เส้น Fibonacci Retracement จะใช้ระดับสัดส่วนเฉพาะของ Fibonacci (เช่น 0%, 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, 100%) เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ของราคา

-เทรดเดอร์สามารถใช้ Fibonacci Retracement เพื่อระบุระดับที่ราคามีแนวโน้มในการแก้ไข หรือการถอนกลับ ซึ่งมักจะเป็นระดับที่เป็นที่น่าสนใจสำหรับการเข้าซื้อหรือขาย

ข้อดีของ Fibonacci Retracement

-ช่วยในการระบุระดับที่ราคามีแนวโน้มที่จะถอนกลับหรือพับตัวเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในตลาด

-เครื่องมือทางเทคนิคนี้ใช้ค่าทางคณิตศาสตร์ที่สามารถใช้ในการวาดเส้นได้อย่างง่ายดาย

ข้อเสียของ Fibonacci Retracement

-การใช้ Fibonacci Retracement อาจต้องใช้ประสบการณ์และการศึกษาเพิ่มเติมในการระบุระดับที่แม่นย่ำ

9.Hedging การป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในอนาคต

กลยุทธ์ทางการเงินที่ใช้เพื่อลดความเสี่ยงของการลงทุนโดยการทำการซื้อขายที่สามารถป้องกันตัวจากความเสี่ยงที่เป็นไปได้

หลักการทำงานของ Hedging

-เป็นการทำการซื้อขายที่สามารถลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหรือสภาวะตลาดที่ไม่คาดคิด

-สามารถใช้ได้กับเครื่องมือการเงิน เช่น การซื้อหรือขายอนุพันธ์ (derivatives) และ อนุพันธ์ทางการเงินอื่น ๆ

ข้อดีของ Hedging

-ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของราคา

-ช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนโดยลดความกังวลจากความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลง

ข้อเสียของ Hedging

-การ Hedging อาจจะไม่ได้ผลต่อความเสี่ยงทั้งหมด

10.Price Action Trading การซื้อขายโดยใช้ข้อมูลการเคลื่อนไหวของราคาและแผนภาพเทียนเทียนในการตัดสินใจ

กลยุทธ์การซื้อขายในตลาดทางการเงินที่ใช้การเคลื่อนไหวของราคาเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจการซื้อหรือขาย 

หลักการทำงานของ Price Action Trading

-ใช้กราฟราคาและแท่งเทียนเพื่อระบุแนวโน้มของราคา 

-ต้องใช้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด เช่น แนวรับและแนวต้าน แนวโน้มราคา เป็นส่วนสำคัญในการวิเคราะห์ Price Action

ข้อดีของ Price Action Trading

-Price Action ช่วยในการดูและติดตามแนวโน้มของตลาด ทำให้ผู้ซื้อขายมีความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของตลาดมากขึ้น

ข้อเสียของ Price Action Trading

-การวิเคราะห์ Price Action อาจต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการอ่านและตีความหมาย

11.Technical Analysis Strategies การวิเคราะห์แผนภาพและตัวชี้วัดเทคนิคเพื่อทำนายแนวโน้มของตลาด

12 กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ไม่ควรพลาดในปี 2024 ที่มือใหม่ต้องศึกษา

เป็นวิธีการวิเคราะห์ตลาดการเงินโดยใช้ข้อมูลทางเทคนิคเพื่อทำนายแนวโน้มของราคาในอนาคต โดยทั้งหมดนี้จะเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขาย รวมถึงการใช้เครื่องมือทางเทคนิคต่าง ๆ เช่น

-แท่งเทียน (Candlestick Charts) ดูแนวโน้มของราคาและการเคลื่อนไหวของตลาดในแต่ละช่วงเวลา

-เส้นทางการเคลื่อนไหวเฉลี่ย (Moving Averages) ระบุแนวโน้มของราคาและจุดเข้า-ออกตลาด

-การวิเคราะห์แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance) ระบุระดับที่ราคามักจะหยุดหรือเปลี่ยนทิศทาง

-แบบจำลองกราฟิก (Chart Patterns) ระบุรูปแบบของแผนภูมิที่อาจสร้างสัญญาณเข้า-ออกตลาด 

-ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) ใช้ในการวิเคราะห์ตลาด เช่น RSI, Stochastic, MACD และอื่น ๆ

-การวิเคราะห์ปริมาณ (Volume Analysis) ใช้ข้อมูลปริมาณการซื้อขายเพื่อพิจารณาแนวโน้มของตลาด

ข้อดีของกลยุทธ์การวิเคราะห์ทางเทคนิค

-ช่วยในการระบุจุดเข้า-ออกตลาดโดยใช้ข้อมูลทางเทคนิคที่มีรูปแบบชัดเจน

-ช่วยในการกำหนดกฎการซื้อขายที่มีมาตรฐาน จากการใช้ตัวชี้วัดเทคนิคต่าง ๆ สร้างสัญญาณเข้า-ออกในตลาด

ข้อเสียของกลยุทธ์การวิเคราะห์ทางเทคนิค

-การใช้เครื่องมือเทคนิคมีความซับซ้อน ต้องอาศัยความเข้าใจทางทฤษฎีอย่างละเอียด

-แม้ว่าเครื่องมือเทคนิคจะช่วยในการวิเคราะห์ แต่ก็ไม่สามารถทำนายตลาดได้ทุกครั้งเสมอไป

12.Fundamental Analysis Strategies การศึกษาปัจจัยเศรษฐกิจและข่าวสารเพื่อทำนายการเคลื่อนไหวของตลาด

การเทรดตลาดเงินตราต่างประเทศ หรือ Forex นักเทรดหลาย ๆ ท่านนิยมใช้กลยุทธ์การเทรดหลายแบบเพื่อช่วยในการวิเคราะห์ตลาดและการตัดสินใจในการซื้อขาย

เป็นวิธีการในการศึกษาและประเมินข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานของตลาดเพื่อทำการวิเคราะห์และตัดสินใจในการลงทุน โดยใช้ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเศรษฐกิจ, การเงิน, นโยบายของบริษัท และปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อราคาหุ้นหรือตลาดการเงินโดยตรง เช่น

-การวิเคราะห์การเงิน (Financial Analysis) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลการเงินของบริษัท เช่น รายได้, กำไรสุทธิ, การเงิน, และอัตราผลตอบแทนเพื่อวิเคราะห์ความสมบูรณ์ของธุรกิจ

-การวิเคราะห์เศรษฐกิจ (Economic Analysis) วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ และปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงิน เช่น อัตราเงินเฟ้อ, การผันผวนในการเงิน, การบริหารเศรษฐกิจและอื่น ๆ

-การวิเคราะห์ตลาดและอุตสาหกรรม (Market and Industry Analysis) ศึกษาสถานะและแนวโน้มของตลาดที่เฉพาะเจาะจงหรืออุตสาหกรรมที่ส่งผลโดยตรงต่อสินทรัพย์ที่ลงทุน

-ข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจัยที่ส่งผล (News Analysis) การติดตามข่าวสาร, กิจกรรม, และเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อตลาดการเงิน เช่น นโยบายการเงินของธนาคารกลาง, เหตุการณ์ทางการเมือง, และเหตุการณ์ทางสังคมที่ส่งผลต่อตลาด

ข้อดีของ Fundamental Analysis Strategies

-ได้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์

-สามารถระบุค่าคาดการณ์และการเปรียบเทียบข้อมูลในเชิงระยะยาว

ข้อเสียของ Fundamental Analysis Strategies

-วิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจและการเงินอาจซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ

-บางครั้งข้อมูลที่เป็นพื้นฐานก็มีความไม่แน่นอนทำให้การวิเคราะห์ยากขึ้น

การซื้อขายอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสําหรับทุกคน

บทความที่เกี่ยวข้อง

×
เปิดบัญชีเทรดจริง

STARTRADER

Online Trading App

Online App Score
Install
Customer Service
Customer Service