ในการที่จะตัดสินใจในทำการส่งคำสั่งซื้อขาย เทรดเดอร์โดยส่วนมากจะใช้วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรด ซึ่งเทคนิครูปแบบ Price Pattern ก็ถือเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเทรดเดอร์มักจะใช้ในการหาจุดไปต่อของราคา และ จุดกลับตัวของราคา ในบทความนี้ ทาง Startrader จะช่วยให้ทุกท่านได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ Price Pattern กันมากขึ้น
Price Pattern คือ รูปแบบพฤติกรรมของราคาที่ใช้ระบุการไปต่อในทิศทางเดิมของราคา (Continuation Patterns) หรือ การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม และ ทิศทางราคา (Reversal Patterns) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ทั้งนี้รูปแบบพฤติกรรมเหล่านี้ เกิดจากการศึกษารูปแบบของกราฟในอดีต ที่คนในอดีตมีการสังเกตุว่า เมื่อเกิดรูปแบบเหล่านี้ มักจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของราคา
แล้วจึงสรุปมาเป็น Price Pattern ต่างๆ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยในบทความนี้จะพูดถึงเฉพาะรูปแบบ Patterns ต่างๆที่สำคัญ และ ได้รับความนิยม เท่านั้น
Price Pattern ถือเป็นการศึกษาแรงซื้อกับแรงขายของราคา โดยหากแรงซื้อมากกว่าแรงขาย ราคาก็มีแนวโน้มขึ้น (Uptrend) หรือ หากแรงขายมากกว่าแรงซื้อ ราคาก็มีแนวโน้มลง (Downtrend) แต่หากแรงซื้อกับแรงขายเท่าๆกัน ราคาก็มีแนวโน้มเคลื่อนที่ออกข้าง (Sideway) อย่างไรก็ตาม การดูเรื่อง Price Pattern จะอยู่ที่ประสบการณ์ของแต่ละบุคคลประกอบด้วย กล่าวคือ คน 2 คนมองกราฟเดียวกัน คนแรกอาจเห็นไปรูปแบบ Price Pattern แบบหนึ่ง ในขณะที่อีกคนหนึ่งอาจไม่เห็นเป็นรูปแบบ Price Pattern แบบคนแรกก็ได้ ขึ้นอยู่กับความรู้ และ ประสบการณ์ของแต่ละคน
คือ รูปแบบพฤติกรรมของราคาที่ใช้ดูการชะลอตัวของแรง โดยหากเกิด Pattern เหล่านี้แล้ว ราคามีโอกาสที่จะยังไม่กลับตัวเป็นอีกแนวโน้มหนึ่ง แต่มีโอกาสที่ราคาจะเคลื่อนที่ไปตามทิศทางเดิมต่อ นั่นหมายถึงว่า หากกราฟมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น (Uptrend) แล้วต่อมา เกิดรูปแบบของกราฟที่เป็น Continuation Pattern ขึ้น ราคาก็มีโอกาสที่จะขึ้นเป็นขาขึ้นต่อไป ในทางกลับกัน หากกราฟมีแนวโน้มเป็นขาลง (Downtrend) แล้วต่อมา เกิดรูปแบบของกราฟที่เป็น Continuation Pattern ขึ้น ราคาก็มีโอกาสที่จะเป็นขาลงต่อไปนั่นเอง ทั้งนี้ยิ่งเกิดการสร้างรูปแบบ Price Action เหล่านี้เป็นระยะเวลานานเท่าไหร่ การระเบิดก็จะยิ่งรุนแรงมากขขึ้นเท่านั้น
เป็นรูปแบบการพักตัวของราคาที่มีรูปแบบเป็นสามเหลี่ยมตามรูปแบบที่อยู่ด้านล่าง โดยเราจะรอให้ราคา Breakout จากกรอบสามเหลี่ยม แล้วจึงเข้าออเดอร์ตามแนวโน้มเดิม
เป็นรูปแบบการชะลอตัวของราคาที่เป็นสี่เหลี่ยม โดยหากราคามีการ Breakout จากแนวโน้มเดิม ก็จะทำการเข้าออเดอร์ตามแนวโน้มเดิม
คือ การฟอร์มตัวของราคาในลักษณะรูปธงปลายแหลม วิธีการเข้าออเดอร์ก็คือการรอ Breakout เช่นกัน โดยเราอาจดูปริมาณการซื้อขาย (Volume) ประกอบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เป็นรูปแบบพฤติกรรมของราคาที่ใช้ดูการกลับตัวของแนวโน้มของราคา โดยหากเกิดรูปแบบ Reversal Pattern เหล่านี้แล้ว ราคาก็มักจะมีการกลับตัวเป็นอีกแนวโน้มหนึ่ง นั่นหมายความว่า หากกราฟมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น (Uptrend) แล้วต่อมา เกิดรูปแบบของกราฟที่เป็น Reversal Pattern ขึ้น ราคาก็มีโอกาสที่จะกลับตัวเป็นขาลง (Downtrend) ในทางกลับกัน หากกราฟมีแนวโน้มเป็นขาลง (Downtrend) แล้วต่อมา เกิดรูปแบบของกราฟที่เป็น Reversal Pattern ขึ้น ราคาก็มีโอกาสที่จะกลับตัวเป็นขาขึ้น (Uptrend) นั่นเอง
เป็นรูปแบบการฟอร์มตัวของราคาเป็นรูปตัว M ซึ่งมียอด 2 ยอด โดยจุดยอดทั้ง 2 ยอดถือเป็นจุด Peak ของราคา ที่เมื่อราคาขึ้นไปแตะแล้วราคามีการวกกลับตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ วิธีการเข้าออเดอร์ให้รอราคา breakout กรอบของราคาลงมา แล้ว Follow Sell ตาม
เป็นรูปแบบการฟอร์มตัวของราคาเป็นรูปตัว W ซึ่งมียอดด้านล่าง 2 ยอด โดยจุดยอดทั้ง 2 ยอด ถือเป็นจุด Bottom ของราคา ที่เมื่อราคาลงมาแตะแล้ว ราคามีการวกกลับตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ วิธีการเข้าออเดอร์ให้รอราคา breakout กรอบของราคาขึ้นมา แล้ว Follow Buy ตาม
เป็นรูปแบบการฟอร์มตัวของราคาที่มีจุดสำคัญ 3 จุด ได้แก่จุด Top Peak หรือ Top Bottom เรียกว่า Head อยู้ตรงกลาง และมี Shoulder 2 ฝั่ง ตามรูปด้านล่าง
เป็นรูปแบบการกลับตัวอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะของ Sideway Down หรือ Sideway Up โดยสามารถใช้ประกอบกับ Indicator ที่บอก Momentum ประกอบด้วย เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพที่มากยิ่งขึ้นได้
Price Pattern เป็นรูปแบบของราคาที่ใช้ในการดูว่าราคาจะเคลื่อนไปต่อจากแนวโน้มเดิม หรือ ราคาจะเคลื่อนที่กลับตัวจากแนวโน้มเดิมหรือไม่ ซึ่งรูปแบบ Pattern ต่างๆเหล่านี้ เกิดจากการสังเกตุจากพฤติกรรมราคาของสินค้าในอดีต ซึ่งมีด้วยกันหลายรูปแบบ โดยจริงๆแล้วมีหลายรูปแบบกว่าที่กล่าวไปด้านบนด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ต้องทราบว่า แม้เราจะเข้าออกออเดอร์ตามรูปแบบเหล่านี้ ก็ไม่ได้เป็นการการันตรีว่าเราจะได้กำไรทุกครั้งในการเทรด เพราะฉะนั้นเราจึงต้องตั้ง Stop Loss ทุกครั้งในการเทรด อีกทั้งต้องมีระบบ Money Management ที่เหมาะสมด้วย เพื่อให้สามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืนได้
*การซื้อขายและลงทุนใน Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียมากกว่าเงินทุนทั้งหมด
งานสัมมนา Lots Academy Pool Villa Party Trade เทรดสดชนข่าว CPI ที่จังหวัดอุบลราชธานี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นงานที่ผสมผสานระหว่างความรู้และความสนุกได้อย่างลงตัว นำเสนอประสบการณ์เทรดสดที่เทรดเดอร์ไม่ควรพลาด…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบตารางด้านล่างต่อไปนี้สำหรับการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายประจำเดือนพฤศจิกายน โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง: วันที่ 4 พฤศจิกายน 2024(วันจันทร์) 11 พฤศจิกายน 2024(วันจันทร์) 15 พฤศจิกายน 2024(วันศุกร์) 20 พฤศจิกายน…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ขอเรียนให้ทราบว่าชั่วโมงการซื้อขายของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาออมแสงในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2024 สัญลักษณ์ เวลาซื้อขาย (GMT+2) Cocoa จันทร์ - พฤหัส: 11:45-20:30ศุกร์: 11:45-20:27 Coffee…
อินดิเคเตอร์พื้นฐาน (Basic Indicators) เป็นเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนและนักเทรดใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อหรือขายสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น, ฟอเร็กซ์, คริปโต หรือสินทรัพย์อื่น ๆ อินดิเคเตอร์เหล่านี้ใช้ข้อมูลจากราคา ปริมาณการซื้อขาย และความผันผวนของตลาดเพื่อวัดแนวโน้ม, โมเมนตัม,…
Dear Valued Clients, As we approach the 2024 U.S. election on November 5, 2024 (next…
CFD Contract Rollover เป็นกระบวนการสำคัญที่นักเทรดควรเข้าใจ โดยเฉพาะหากคุณลงทุนในสินทรัพย์ที่มีวันหมดอายุ เช่น ฟิวเจอร์สหรือสินค้าโภคภัณฑ์ การทำ Rollover ช่วยให้นักเทรดยังคงถือครองตำแหน่งในตลาดต่อไปได้โดยไม่ต้องปิดสัญญาเดิมเอง นี่คือทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการทำ CFD Contract Rollover สำหรับนักเทรดมือใหม่…