ในทุกๆ การซื้อขาย กฎสำคัญที่จะเทรดให้ประสบความสำเร็จ คือการควบคุมการขาดทุนในการเทรด หรือที่เรียกกันว่า การจัดการ Drawdown เป็นการจัดการการลดลงของเงินทุนในการเทรดก่อนที่การขาดทุนจะถูกตัดเป็นผลกำไร เทรดเดอร์หลายๆ ท่านมักจะตรวจสอบสถานะการซื้อขายและพอร์ตโฟลิโอของตนอย่างสม่ำเสมอ Drawdown เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงในการขาดทุนของนักเทรดได้
สำหรับบทความนี้ STARTRADER ทำการสรุป พร้อมเจาะลึกถึงประเด็นสำคัญ หลักการทำงานของ Drawdown และความสำคัญของ Drawdown ในการเทรด
Drawdown (DD) เป็น % ของจำนวนเงินขาดทุนสะสมในบัญชีและเป็นสิ่งสำคัญที่จะบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการซื้อขายที่ผ่านมาของเทรดเดอร์ได้ สามารถดูได้จากความแตกต่างระหว่างจุดสูงสุดในบัญชีซื้อขายของคุณ กับจุดต่ำสุดในยอดคงเหลือในบัญชีของคุณ % ของ Drawdown ไม่ควรเกิน 30% เพื่อที่จะง่ายต่อการกลับมาเติบโตของพอร์ตได้อีกครั้ง ถ้ามากกว่านี้มีโอกาสเสี่ยงที่พอร์ตจะแตก
เทรดเดอร์ฝากเงินเข้าบัญชีซื้อขาย 10,000 USD หลังจากการเทรดที่ขาดทุนติดต่อกัน 5 ครั้ง ยอดเงินในบัญชีจะตกลงไปที่ 9,000 USD การลดจากจุดสูงสุดจนถึงต่ำสุดจาก USD 10,000 เป็น USD 9,000 แสดงถึงการลดลง 10%
การคำนวณ Drawdown สามารถทำได้ดังนี้
Drawdown = ((Balance – Equity) / Balance ) * 100
การขาดทุนจะเกิดขึ้นเมื่อคุณเข้าออเดอร์ Buy แล้วราคาปิดต่ำกว่าราคาที่เข้า หรือเมื่อคุณเข้าออเดอร์ Sell แล้วราคาปิดสูงกว่าราคาที่เข้า เทรดเดอร์ต้องรวมตำแหน่ง (Position) ที่ได้กำไรและตำแหน่งที่ขาดทุน เพื่อกำหนดว่าจุดต่ำสุดของพอร์ตจะอยู่จุดไหน ถ้าหากเปอร์เซนต์ของ Drawdown เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เทรดเดอร์อาจจะต้องทำกำไรมากขึ้นเท่าตัว เพื่อที่จะให้ทุนกลับมาเท่าเดิม อย่างเช่น
% ที่ต้องทำกำไรคืน = ( loss / (100 – loss ) x 100)
ตัวอย่างเช่น
% Drawdown ที่เทรดเดอร์เสียไป ตอนนี้ 60% จะหาว่า % ที่ต้องทำกำไรคืน ต้องมีกี่เปอร์เซ็นต์ได้ด้วยวิธี 60 / (100 – 60) x 100 = 150.0%
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องควบคุม drawdown เพราะยิ่งลดลงมากเท่าไหร่ การกู้คืนของพอร์ตจะยากขึ้นเท่านั้น จำนวนเงินที่คุณต้องใช้เพื่อให้กลับสู่จุดคุ้มทุนจะมากกว่า drawdown ของคุณเสมอ
เทรดเดอร์ที่เทรดด้วย Expert advisor หรือ Copy Trade สามารถดู % Drawdown ได้ผ่านระบบเทรด MT4 / MT5 ได้จากส่วนของ Report เทรดเดอร์จะสามารถทราบได้ทั้ง absolute drawdown, Maximum drawdown, Relative drawdown ยิ่งมี Maximum drawdown ต่ำเท่าไร ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อระบบเทรด
Absolute drawdown คือผลขาดทุนมากที่สุดที่เคยเกิดขึ้นนับจากเงินทุนเริ่มต้น (deposit) ตัวเลขนี้ระบุจำนวนเงินสูงสุดที่คุณสามารถสูญเสียได้เมื่อเทียบกับเงินฝากเริ่มต้น
Relative Drawdown คือ จุดขาดทุนต่อเนื่องสูงสุด ณ จุดๆหนึ่งของ balance การขาดทุนสะสมจะแสดงให้เห็นว่านักเทรดเหล่านี้สามารถเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใด
Maximum Drawdown คือ จุดขาดทุนต่อเนื่องสูงสุด นับจากผลต่างระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด ซึ่งไม่ควรเกิน 20 %
Drawdown จะเป็นสัญญาณเตือนถึงการขาดทุนในการเทรด ดังนั้นการเข้าใจถึง Drawdown จะช่วยให้เทรดเดอร์ทราบว่าควรหยุดเทรดในตอนไหน หรือทำการวางแผนการเทรดใหม่เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่พอร์ตจะแตก สังเกตได้จาดการที่เปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นสัญญาณที่บอกว่าการเทรดของคุณเริ่มมีปัญหา ดังนั้น เปอร์เซ็นต์ของ Drawdown จึงไม่ควรเกิน 20 – 30% เพื่อไม่ให้เสี่ยงในการเทรดจนเกินไป และก็เพื่อเป็นโอกาสในการกู้คืนพอร์ตได้ง่ายขึ้น
สาเหตุที่หลักๆ ที่ทำให้เกิดการ Drawdown คือการเทรดแบบไม่มีความรู้ ไม่มีแบบแผนของเทรดเดอร์ หรือไม่มี Money Management ที่ดี ก็อาจก่อให้เกิดการ Drawdown ที่สูงได้
– หลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจมากเกินไป
– ตั้งค่าลิมิตของ Drawdown เป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือน ช่วยหลีกเลี่ยงการขาดทุนสะสมของเทรดเดอร์ได้ ถ้าเกินที่ตั้งลิมิตไว้ เทรดเดอร์ควรหยุดการซื้อขายแล้ววางแผนการเทรดใหม่
– ซื้อขายด้วยขนาดที่เล็ก ตามกำลังที่เทรดเดอร์สามารถรับได้กับการขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
– กำหนดเป้าหมาย Reward to risk ratios ให้ชัดเจน และไม่ควรมีขนาดน้อยกว่า Stop Loss
– กำหนดจุด Stop-loss เป็นอีกทางในการป้องกันการขาดทุนจากการเทรด
– รู้จักการปิดตำแหน่งและหยุดพักการซื้อขาย เมื่อการเทรดมีแนวโน้มที่ไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้
การขาดทุนมักเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ถือเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ในตลาด Forex หลีกเลี่ยงไม่ได้ ค่า Drawdown จะเป็นเครื่องมือที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของพอร์ตเทรดเดอร์ได้เป็นอย่างดี การเพิ่มขึ้นของ Drawdown คือการขาดทุนที่มากขึ้น เป็นสัญญาณที่บอกให้เทรดเดอร์ควรหยุดการซื้อขาย แล้วหันมาวางแผนให้รอบคอบอีกครั้ง นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้เทรดก็ควรมี ก็คือ Money management ที่ดี จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเช่นกัน
*การซื้อขายและลงทุนใน Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียมากกว่าเงินทุนทั้งหมด
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายของผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้ตามวันหยุดประจำเดือนธันวาคม โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง: วันที่ 24 ธันวาคม 2024 (วันอังคาร) 25 ธันวาคม 2024 (วันพุธ) 26 ธันวาคม 2024…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายของผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้ตามวันหยุดประจำเดือนธันวาคม โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง วันที่ 16 ธันวาคม 2024 (วันจันทร์) 23 ธันวาคม 2024 (วันจันทร์) วันหยุด วันแห่งการปรองดอง คริสต์มาสอีฟ…
Dear Valued Clients, The global gold market has experienced significant volatility recently, with market liquidity…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ขอเรียนให้ทราบว่าผลิตภัณฑ์ซื้อขาย CFD ต่อไปนี้จะโรลโอเวอร์อัตโนมัติตามวันที่ระบุไว้ในตารางด้านล่างนี้ เนื่องจากอาจมีความแตกต่างของราคาระหว่างสัญญาเก่าและใหม่ จึงขอแนะนำให้ลูกค้าตรวจสอบและจัดการโพสิชันของคุณตามความเหมาะสม วันหมดอายุ: สัญลักษณ์ คำอธิบาย วันที่ JPN225ft Japan 225 Index Future…
ในการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ นักลงทุนควรใช้ตัวชี้วัดการเทรดที่มีประสิทธิภาพเพื่อประเมินผลการลงทุนของตนเอง ตัวชี้วัดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการตัดสินใจในการซื้อขาย แต่ยังช่วยให้คุณวัดประสิทธิภาพและปรับปรุงกลยุทธ์การลงทุนของคุณได้อย่างต่อเนื่อง นี่คือตัวชี้วัดสำคัญที่นักลงทุนทุกคนควรรู้ 1. อัตราการชนะ (Win Rate) คือสัดส่วนของจำนวนการเทรดที่ประสบความสำเร็จเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนการเทรดทั้งหมดที่ดำเนินการ โดยเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยในการประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนหรือการเทรด อัตราการชนะบ่งบอกถึงความสามารถในการทำกำไรจากการเทรด และเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณทราบว่าแนวทางการเทรดของคุณมีประสิทธิภาพเพียงใด วิธีการคำนวณ: ตัวอย่าง:…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบตารางการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายประจำเดือนพฤศจิกายนด้านล่างนี้ โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2024(วันพุธ) 28 พฤศจิกายน 2024(วันพฤหัส) 29 พฤศจิกายน 2024(วันศุกร์) 30 พฤศจิกายน…