“Leverage” ในตลาด Forex หมายถึงการเพิ่มความสามารถในการซื้อขาย หรือการยืมเงิน (ทุน) เพื่อลงทุนในสกุลเงิน หุ้น หรือสินทรัพย์ต่าง ๆ นักเทรดสามารถเข้าสู่ตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงิน แต่ leverage ก็เปรียบเสมือนด้านมีดสองคม หมายความว่ามันก็สามารถทำให้ขาดทุนเพิ่มขึ้นได้อีกด้วยในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่เอื้ออำนวยต่อตัวลงทุน
นักเทรด forex จะต้องเรียนรู้การจัดการ leverage ร่วมไปถึงหลักการใช้อย่างไรให้ส่งผลดีต่อการซื้อขาย และสิ่งสำคัญคือเรียนรู้วิธีจัดการความเสี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงของการขาดทุนใน forex สำหรับบบทความนี้ STARTRADER จะมาอธิบายถึงความสำคัญของ Leverage หลักการใช้และข้อควรระวังในการใช้ leverage
Leverage เป็นตัวกำหนดว่าเทรดเดอร์จะมีอำนาจในการเทรดและลงทุนเพิ่มขึ้นสูงสุดกี่เท่าของเงินที่มี
Leverage คือการยืมเงินเพื่อลงทุนหรือเทรด และช่วยให้ตำแหน่งการเทรดใหญ่ขึ้นโดยใช้เงินทุนของตนเองเพียงบางส่วนเท่านั้น การเทรดด้วย leverage จะเรียกว่า Margin Trading หมายความถึง หลักประกันที่ต้องวาง ความสัมพันธ์คือ “เงินหลักประกันที่ต้องวาง : มูลค่าสินทรัพย์” เช่น 1 : 100, 1 : 20
1 : 1 หมายความว่า ไม่ใช้เลเวอเรจ
1 : 100 มีความหมายว่า เงินทุน 1 USD จะสามารถถือครองสถานะได้มากสุดถึง 100 USD
ขนาดสัญญาทุกๆ 100 USD จะต้องวางเงินหลักประกันเป็นจำนวน 1 USD
ซึ่งนั้นหมายความว่า Leverage จะเป็นทุนที่ช่วยให้เทรดเดอร์ขนาดกำลังการลงทุนได้มากกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ เพื่อให้ได้กำไรที่เพิ่มขึ้น
กำไรและขาดทุนขึ้นอยู่กับมูลค่าทั้งหมดของการเทรด Leverage ก็สามารถทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนเป็นเท่าตัวได้หากตลาดเคลื่อนไหวตรงข้าม ดังนั้นการใช้ Leverage จึงต้องระมัดระวังและมีการทำความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนลงมือเทรดจริง
การใช้ Leverage เท่าไหร่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่คุณพร้อมรับ โดยทั่วไปแล้ว การใช้ Leverage ในการเทรดควรจะไม่เกิน 1:10 หรือ 1:20 ขึ้นอยู่กับการยอมรับความเสี่ยงและวัตถุประสงค์ของการเทรด แต่อย่าลืมว่าควรใช้ Leverage ในระดับที่คุณรู้สึกสบายและสามารถจัดการได้อย่างเหมาะสม
ตัวอย่างที่ 1
หากเรามีเงินในบัญชี 1,000 USD หากเราเลือก Leverage 1:1 (ไม่ใช้ Leverage) ก็เท่ากับว่าเทรดเดอร์ไม่มีอำนาจในการเทรด และ การลงทุนเพิ่มขึ้น ฉะนั้นเทรดเดอร์จึงทำการเทรดและลงทุนได้สูงสุดเท่ากับ 1,000 USD
ตัวอย่างที่ 2
หากเรามีเงินในบัญชี 1,000 USD หากเราเลือก Leverage 1:500 ก็เท่ากับว่าเทรดเดอร์มีอำนาจในการเทรด และ การลงทุนเพิ่มขึ้นสูงสุด 500 เท่า ฉะนั้นเทรดเดอร์จึงทำการเทรดและลงทุนได้สูงสุดเท่ากับ 500,000 USD
ตัวอย่างที่ 3
หากเรามีเงินในบัญชี 1,000 USD หากเราเลือก Leverage 1:1,000 ก็เท่ากับว่าเทรดเดอร์มีอำนาจในการเทรด และ การลงทุนเพิ่มขึ้นสูงสุด 500 เท่า ฉะนั้นเทรดเดอร์จึงทำการเทรดและลงทุนได้สูงสุดเท่ากับ 1,000,000 USD
ทั้งนี้ Leverage เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์สามารถเลือกได้ตอนเปิดบัญชี โดยหากเปิดบัญชีกับ Startrader ก็จะมี Leverage ให้เลือกตั้งแต่ 1:100 ถึง 1:1,000 อย่างไรก็ตาม แม้เทรดเดอร์จะสามารถเลือก Leverage ได้ แต่ Leverage ที่เลือกจะเป็นเพียง Leverage สูงสุดที่สามารถใช้ได้เท่านั้น เนื่องจาก Leverage จะยังขึ้นอยู่กับ ขนาดของเงินทุนในบัญชี (Equity) พร้อมกับ สินค้าที่ทำการเทรดอีกด้วย
Leverage กับขนาดเงินทุนของเทรดเดอร์ (Equity)
Leverage กับ สินค้าที่ทำการเทรด
ฉะนั้นต่อให้เราเลือก Leverage 1:1000 ตอนสร้างบัญชี แต่หากเรามี Equity ในพอร์ตเกิน 5,000 USD Leverage ในพอร์ตเราก็จะถูกปรับลดลงอยู่ดี หรือหากเราไปเทรดคริปโตเคอเรนซี เราก็จะถูกปรับ Leverage ลงเช่นเดียวกัน
-การใช้ Leverage สามารถทำให้ขาดทุนได้แบบเท่าตัวเมื่อตลาดเคลื่อนไหวในทางลบ ดังนั้นควรมีการวางแผนการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน
-ควรเข้าใจว่าการใช้ Leverage นอกจากเพิ่มกำไรแล้วยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุน
-ควรศึกษาและเข้าใจการทำงานของตลาดที่เทรดเดอร์กำลังเทรดอยู่ มีการคาดการณ์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดในระยะยาวและระยะสั้น
-หากเริ่มต้นใช้ Leverage ควรทดลองเทรดโดยใช้บัญชีทดลองก่อน เพื่อทำความเข้าใจการใช้งานและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะลงทุนก่อนใช้เงินจริง
-ควรใช้เงินทุนที่สามารถขาดทุนได้โดยไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความสามารถในการดำเนินชีวิตประจำวัน
การซื้อขายอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสําหรับทุกคน
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายของผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้ตามวันหยุดประจำเดือนธันวาคม โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง: วันที่ 24 ธันวาคม 2024 (วันอังคาร) 25 ธันวาคม 2024 (วันพุธ) 26 ธันวาคม 2024…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายของผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้ตามวันหยุดประจำเดือนธันวาคม โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง วันที่ 16 ธันวาคม 2024 (วันจันทร์) 23 ธันวาคม 2024 (วันจันทร์) วันหยุด วันแห่งการปรองดอง คริสต์มาสอีฟ…
Dear Valued Clients, The global gold market has experienced significant volatility recently, with market liquidity…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ขอเรียนให้ทราบว่าผลิตภัณฑ์ซื้อขาย CFD ต่อไปนี้จะโรลโอเวอร์อัตโนมัติตามวันที่ระบุไว้ในตารางด้านล่างนี้ เนื่องจากอาจมีความแตกต่างของราคาระหว่างสัญญาเก่าและใหม่ จึงขอแนะนำให้ลูกค้าตรวจสอบและจัดการโพสิชันของคุณตามความเหมาะสม วันหมดอายุ: สัญลักษณ์ คำอธิบาย วันที่ JPN225ft Japan 225 Index Future…
ในการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ นักลงทุนควรใช้ตัวชี้วัดการเทรดที่มีประสิทธิภาพเพื่อประเมินผลการลงทุนของตนเอง ตัวชี้วัดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการตัดสินใจในการซื้อขาย แต่ยังช่วยให้คุณวัดประสิทธิภาพและปรับปรุงกลยุทธ์การลงทุนของคุณได้อย่างต่อเนื่อง นี่คือตัวชี้วัดสำคัญที่นักลงทุนทุกคนควรรู้ 1. อัตราการชนะ (Win Rate) คือสัดส่วนของจำนวนการเทรดที่ประสบความสำเร็จเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนการเทรดทั้งหมดที่ดำเนินการ โดยเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยในการประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนหรือการเทรด อัตราการชนะบ่งบอกถึงความสามารถในการทำกำไรจากการเทรด และเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณทราบว่าแนวทางการเทรดของคุณมีประสิทธิภาพเพียงใด วิธีการคำนวณ: ตัวอย่าง:…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบตารางการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายประจำเดือนพฤศจิกายนด้านล่างนี้ โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2024(วันพุธ) 28 พฤศจิกายน 2024(วันพฤหัส) 29 พฤศจิกายน 2024(วันศุกร์) 30 พฤศจิกายน…