เมื่อพูดถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิค เทคนิคที่นิยมใช้กันมากก็คือ การใช้ Price Action ในการเทรด ซึ่งการเทรดแบบใช้ Price Action ก็คือการเทรดด้วยกราฟเปล่า โดยไม่ต้องใช้ Indicator มาเกี่ยวข้อง ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ โดย หนึ่งในเทคนิคที่สำคัญนั้นก็คือ Demand and Supply ซึ่งในวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันเกี่ยวกับ Demand and Supply กันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Demand and Supply เป็นการดูความต้องการซื้อ (demand) ความต้องการขาย(Supply) ของสินค้า ผ่านกราฟแท่งเทียน หรือ Bar Chart ในกรอบเวลาที่เราสนใจ ซึ่งเทรดเดอร์มักจะใช้ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย (volume) เพื่อให้เข้าใจสภาวะตลาดมากยิ่งขึ้น โดยในบทความนี้จะอธิบายหลักการ Demand and Supply Zone ในรูปแบบกราฟแท่งเทียนเป็นหลัก
ดูความยาวของเนื้อเทียน (Body) และ ไส้เทียน (Tail) โดยหากแท่งเทียนเป็นสีเขียว ซึ่งก็คือราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ย่อมหมายถึงการที่แรงซื้อ (Demand) มากกว่าแรงขาย (Supply) แต่หากกราฟเป็นแท่งสีแดง ซึ่งก็คือการที่ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด ย่อมหมายถึงการที่แรงขาย (Supply) มากกกว่าแรงซื้อ (Demand)
Pin Bar เป็นกราฟที่มีรูปแบบเป็นไส้ของฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีลักษณะยาวๆ โดยเนื้อของแท่งเทียนจะมีลักษณะไม่กว่างมากนัก ซึ่งในทางสัญญาณทางเทคนิคคอลจะถือเป็นจุดที่อาจจะมีการกลับตัวของแนวโน้ม โดยหากแต่เดิมราคามีแนมโน้มขาลง แล้วเกิด Bullish Pin Bar ก็จะเป็นสัญญาณว่าราคาอาจมีการกลับตัวเป็นขาขึ้น ในทางกลับกัน หากแต่เดิม ราคามีแนวโน้มเป็นขาขึ้น แล้วเกิด Bearish Pin Bar ก็จะเป็นสัญญาณว่าราคาอาจมีการกลับตัวเป็นขาลง ทั้งนี้หากเรามองถึงแรงซื้อ และ แรงขาย มันก็หมายถึงการที่แรงของราคามีความไม่คงตัว เราจึงต้องระมัดระวังอย่างใกล้ชิด
บางครั้งเราสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาวะตลาด โดยดู Volume ประกอบด้วย ซึ่งสามารถดูได้ตามหลักการต่อไปนี้
– แท่งเทียนสีเขียวมีขนาดกว้าง และ มีขนาด Volume ที่สูง เป็นการบ่งบอกถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งมาก โดยการที่มี Volume ที่สูงด้วย ก็หมายถึงการเคลื่อนไหวขึ้นที่รุนแรง ทำให้ราคามีโอกาสไปต่อ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์มักจะใช้ร่วมกับกรณีราคามีการเบรกทะลุแนวต้าน หรือ จุดพักตัวของราคาต่างๆ (Price Cluster) ขึ้นไป แล้ว Follow Buy ตาม
– แท่งเทียนสีเขียวที่แคบ และ มีขนาด Volume ที่สูง เป็นกรณีที่หมายถึงการที่ความต้องการซื้อ และความต้องการขาย อยู่ในระดับที่พอๆกัน ยังไม่มีการเลือกทิศทาง ทำให้เราจึงยังไม่ควรทำการเทรดในช่วงนี้
– แท่งเทียนสีเขียว มีขนาดแคบ และ มีขนาด Volume ที่ต่ำ เป็นกรณีที่ราคามีความไม่ปกติ ฉะนั้นอาจเป็นจุดที่เราพิจารณาเป็นจุดกลับตัวได้ โดยหากเราะทำการ SELL อาจเลือก SELL เมื่อราคาขึ้นไปชนแนวต้านของราคาก็ได้
– แท่งเทียนสีเขียว มีขนาดแคบ และ มีขนาด Volume ที่ต่ำ เป็นกรณีที่หมายถึง การเคลื่อนที่ของราคามีการเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องโดยสินค้าอาจไม่ได้รับความนิยมอย่างเดิม จึงทำให้ Volume มีขนาดต่ำ
– แท่งเทียนสีแดงขนาดกว้าง และ มีขนาด Volume ที่สูง เป็นกรณีที่หมายถึง แรงขายที่แข็งแกร่งมาก โดยการที่มี Volume ที่สูงด้วย ก็หมายถึงมีขนาดการเคลื่อนไหวลงที่รุนแรง ทำให้ราคามีโอกาสลงต่อซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์มักจะใช้ร่วมกับกรณีราคามีการเบรกทะลุแนวรับ หรือ จุดพักตัวของราคาต่าง (Price Cluster) ลงมา แล้ว Follow Sell ตาม
– แท่งเทียนสีแดงขนาดแคบ และ มีขนาด Volume ที่สูง เป็นกรณีที่หมายถึงการที่ความต้องการซื้อ และความต้องการขาย อยู่ในระดับที่พอๆกัน ยังไม่มีการเลือกทิศทาง ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าเรายังไม่ควรทำการเทรดในช่วงนี้
– แท่งเทียนสีแดง มีขนาดแคบ และ มีขนาด Volume ที่ต่ำ เป็นกรณีที่หมายถึง ราคาเคลื่อนที่ไม่ปกติ โดยการที่ Volume น้อย ทำให้อาจมีการทำราคาได้ ซึ่งหากจะเทรดฝั่ง SELL ก็ต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจเป็นจุดกลับตัวของราคาได้ โดยหากเราต้องการจะทำการ BUY อาจเน้น BUY เฉพาะแนวรับที่มีนัยสำคัญก็ได้
– แท่งเทียนสีแดง มีขนาดแคบ และ มีขนาด Volume ที่ต่ำ เป็นกรณีที่มักเกิดขึ้นในกรณีที่ราคาเคลื่อนที่ลงอย่างสม่ำเสมอ มีความต่อเนื่อง โดยมีความเป็นเทรนขาลงที่ค่อนข้างมีความแข็งแกร่ง
การศึกษาเรื่อง Demand and Supply เป็นการดูแรงซื้อ (Demand) และ แรงขายของราคา (Supply) ซึ่งไม่ได้เป็นการดูเพื่อทำนายทิศทางของราคาเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นการดูเพื่อศึกษาพฤติกรรมของราคาในช่วงนั้นๆด้วย ซึ่งโดยทั่วไป จะมีการดูปริมาณการซื้อขายประกอบ อีกทั้งสามารถใช้ร่วมกับทั้ง แนวรับ แนวต้าน (Support and Resistance) และ จุดพักตัวของราคา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังควรใช้ Money Management ประกอบด้วย เนื่องจากเทคนิคเรื่อง Demand and Supply ไม่ได้เป็นการการันตรีว่าจะเทรดถูกต้องทุกครั้ง
*การซื้อขายและลงทุนใน Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียมากกว่าเงินทุนทั้งหมด
งานสัมมนา Lots Academy Pool Villa Party Trade เทรดสดชนข่าว CPI ที่จังหวัดอุบลราชธานี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นงานที่ผสมผสานระหว่างความรู้และความสนุกได้อย่างลงตัว นำเสนอประสบการณ์เทรดสดที่เทรดเดอร์ไม่ควรพลาด…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบตารางด้านล่างต่อไปนี้สำหรับการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายประจำเดือนพฤศจิกายน โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง: วันที่ 4 พฤศจิกายน 2024(วันจันทร์) 11 พฤศจิกายน 2024(วันจันทร์) 15 พฤศจิกายน 2024(วันศุกร์) 20 พฤศจิกายน…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ขอเรียนให้ทราบว่าชั่วโมงการซื้อขายของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาออมแสงในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2024 สัญลักษณ์ เวลาซื้อขาย (GMT+2) Cocoa จันทร์ - พฤหัส: 11:45-20:30ศุกร์: 11:45-20:27 Coffee…
อินดิเคเตอร์พื้นฐาน (Basic Indicators) เป็นเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนและนักเทรดใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อหรือขายสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น, ฟอเร็กซ์, คริปโต หรือสินทรัพย์อื่น ๆ อินดิเคเตอร์เหล่านี้ใช้ข้อมูลจากราคา ปริมาณการซื้อขาย และความผันผวนของตลาดเพื่อวัดแนวโน้ม, โมเมนตัม,…
Dear Valued Clients, As we approach the 2024 U.S. election on November 5, 2024 (next…
CFD Contract Rollover เป็นกระบวนการสำคัญที่นักเทรดควรเข้าใจ โดยเฉพาะหากคุณลงทุนในสินทรัพย์ที่มีวันหมดอายุ เช่น ฟิวเจอร์สหรือสินค้าโภคภัณฑ์ การทำ Rollover ช่วยให้นักเทรดยังคงถือครองตำแหน่งในตลาดต่อไปได้โดยไม่ต้องปิดสัญญาเดิมเอง นี่คือทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการทำ CFD Contract Rollover สำหรับนักเทรดมือใหม่…