การเทรด Forex ในปัจจุบันเทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ เข้ามาช่วยในการเทรดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หนึ่งในนั้นก็จะมีเครื่องมือที่เรียกว่า Expert Advisor (EA) ที่เป็นระบบเทรดอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ไม่ต้องเปิดสัญญา ช่วยให้เทรดเดอร์ประหยัดเวลาในการเทรด รวมไปถึงการแสดงผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
ในบทความนี้ STARTRADER จะเจาะลึกถึงการใช้งานของ Forex Expert Advisor ประโยชน์ และวิธีการอ่าน Backtest Report ให้เทรดเดอร์ได้ทำความเข้าใจถึงโปรแกรมตัวนี้มากยิ่งขึ้น
คือ โปรแกรมที่ช่วยให้ผู้เทรดทำการซื้อ-ขายในตลาด Forex ได้อัตโนมัติ โดยผู้เทรดไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาเพื่อรอเปิด-ปิดออร์เดอร์ โดยเป็นระบบจะทำการซื้อ-ขายแทนเทรดเดอร์ ให้ผู้เทรดไม่พลาดโอกาสที่ดีในการเทรดและทำกำไร
EAs ถูกตั้งโปรแกรมให้ปฏิบัติตามชุดคำสั่งซื้อขายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และสามารถซื้อขายในนามของผู้ซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งนี้ช่วยให้เทรดเดอร์ประหยัดเวลาได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม EAs ก็มีความเสี่ยง หากผู้เทรดไม่ทำการทดสอบระบบก่อนลงมือเทรดจริง อาจจะเทรดขาดทุนมากกว่าการสร้างกำไร ไม่มี EAs ตัวใดสามารถการันตีว่าทำกำไรได้ 100% ผู้เทรดยังจะต้องทำการศึกษาและทดสอบระบบที่ใช้อย่างสม่ำเสมอ
โปรแกรม EAs เป็นการซื้อขายอัตโนมัติอย่างหลากหลายตามความต้องการของผู้เทรด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดปิดตำแหน่งซื้อขาย การใช้คำสั่ง Take Profit / Stop Loss อัตโนมัติ นอกจากนี้ตัวโปรแกรมสามารถตั้งค่าให้เตือนเมื่อพบโอกาสเทรดหรือทำการเทรดอย่างอัตโนมัติให้เทรดเดอร์ตามที่กำหนด
EAs สามารถใช้กับแพลตฟอร์ม FX ได้จำนวนมาก เช่น MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ดาวน์โหลด EA ที่จะติดตั้ง ซึ่งจะมีให้บริการทั้งตัวฟรีและมีค่าใช้จ่ายทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของเทรดเดอร์ วิธีการใช้ EA ใน MT4 มีขั้นตอนดังนี้ :
– อันดับแรก ทำการ Copy ข้อมูลของ File EA ที่โหลดมา
– เปิดโปรแกรม MT4 แล้วไปที่ File > Open Data Folder > MQL4 > Experts จากนั้นวาง File ที่ Copy มาลงในช่องนี้
– ไปที่ Menu Navigator > ไปที่ Expert Advisors คลิกขวาและกด Refresh จะปรากฏชื่อ EA ที่ติดตั้ง
– ติดตั้งโปรแกรม EA เข้ากับกราฟบนแพลตฟอร์ม MT4 และสามารถสั่งงาน EA ให้วิเคราะห์การซื้อขายได้โดยใช้เมนู Expert Advisors
เทรดเดอร์สามารถใช้ EA ในการเทรดได้หลายตัว แต่ไม่ใช่ทุกตัวจะทำงานร่วมกันในเทอร์มินัลเดียวกันได้ หลังจากการติดตั้งโปรแกรมเทรดเดอร์ควรทำการทดลองเทรดโปรแกรม expert advisor ที่เลือกผ่านแพลตฟอร์มของ STARTRADER โดยไม่ต้องใช้เงินจริง เพราะบางครั้งตัว EA ก็ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ การใช้งาน EAจะต้องเปิดเครื่องให้ Run ตลอดเวลา เพื่อที่ EA จะได้ทำการเทรดแทน โปรแกรมนี้สามารถใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น moving average indicator, หรือ MACD indicator ที่จะช่วยค้นหา trends และ breakouts เพื่อที่จะวิเคราะห์ตลาด สร้างโอกาสในการซื้อขายมากขึ้น
– สามารถเปิด-ปิดคำสั่งซื้อขายได้อัตโนมัติโดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ
– EA จะเทรดตามระบบที่ตั้งค่าไว้เท่านั้น
– ตั้งค่าจำนวน Lot ให้เหมาะสมกับสถานะการณ์ตลาด
– EA สามารถเทรดได้กับทุกสกุลเงิน และเทรดได้ทุกช่วงสภาวะของตลาด
– สามารถทำการซื้อ-ขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
– ช่วยตั้งค่าการ limit และ การ Stop Loss ได้เป็นอย่างดี
– ใช้งานได้ทั้ง MT4 (MetaTrader 4) และ MT5 (MetaTrader 5)
Forex EA มีอยู่หลายประเภท และมีการใช้งานที่แตกต่างกันไป เทรดเดอร์สามารถเลือกประเภท EA ให้ตรงกับจุดประสงค์ที่เทรดเดอร์ต้องการเทรดได้ ในส่วนของโบรกเกอร์ STARTRADER ได้มีการรองรับการใช้งาน EA ในทุกรูปแบบ EA ที่นิยมใช้หลักๆ จะมี 5 แบบ ได้แก่
– The News Expert Advisor เป็นโปรแกรมที่การซื้อขายจะเคลื่อนไหวราคาตามข่าวต่างๆ
– The Breakout Expert Advisor เป็นโปรแกรมที่เปิดการซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวต้านและแนวรับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
– Expert Advisor Scalper เป็นการเทรดทำกำไรทีละน้อยๆ แต่มีการเทรดบ่อยครั้ง จะเปิดและปิดการซื้อขายจำนวนไม่สิ้นสุดเพื่อผลกำไร
– EA Martingale คือการเทรด Double Lots เป็นการลงทุน 1 เท่าทุกครั้งที่แพ้ ถ้าครั้งต่อไปมีการชนะก็จะได้เงินจากการแพ้ครั้งก่อนคืนมา ข้อเสียคือจะต้องใช้เงินจำนวนมาก หากแพ้ติดต่อกันหลายครั้ง
– EA เทรดสวิง คือการเทรดตาม Indicator
– ไม่ต้องเทรดเอง ประหยัดเวลาในการเทรด เนื่องจาก EA จะเป็นฝ่ายเทรดอัตโนมัติให้เทรดเดอร์ตลอด 24 ชั่วโมง โปรแกรมจะทำการวิเคราะห์ให้แก่เทรดเดอร์เพื่อหาโอกาสทำกำไรในการเทรด ทั้งนี้เทรดเดอร์สามารถเปิดและปิดสถานะด้วยตนเองได้อีกด้วย
– ลดความผิดพลาดจากการเทรด ด้วยโปรแกรมจะทำการวิเคราะห์ตลาดให้แก่เทรดเดอร์ และทำการซื้อขายให้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดจากการเทรดด้วยอารมณ์ของเทรดเดอร์
– ช่วยในการควบคุมตัวแปรต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเทรด และมีโอกาสทำกำไรได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาตามคุณภาพของ EA แต่ละตัวอีกด้วย
– สามารถทำการทดสอบระบบด้วย Backtesting (BT) ก่อนที่จะทำการซื้อขายในตลาดจริง เทรดเดอร์จะใช้กลยุทธ์คู่กับข้อมูลในอดีตต่าง ๆ และดูว่า EA มีการทำงานอย่างไร ถ้ามีประสิทธิภาพตามที่คาดหวังเทรดเดอร์ถึงจะลงเงินจริงในการเทรด
– โปรแกรม EA ไม่ได้เหมาะกับการเทรดทุกตลาดและทุกสถานการณ์
– EA ช่วยอำนวยความสะดวกในการเทรดก็จริง แต่ข้อเสียคือเทรดเดอร์จะไม่ได้ประสบการณ์เทรดด้วยตัวเองเลย
– EA บางตัวอาจจะมีค่าใช้จ่าย
– เสี่ยงที่จะเจอ EA ที่ไม่ดี ต้องมีการทำการทดสอบการทำงานก่อนลงมือเทรดจริง
– ศึกษาข้อมูลและดูรีวิวของ EA นั้นๆ จากคนที่ใช้งานจริงก่อนทำการ Download
– การดูข้อมูลของ Forex EA นอกจากดูผลกำไรของ EA แล้ว ผู้เทรดควรดูถึงการสร้าง การวิเคราะห์กราฟราคาของ EA Forex ตัวนี้ การใช้ Stop Loss เคยขาดทุนไหม สามารถเทรดในสภาวะตลาดแบบไหนได้บ้าง
– สามารถติดต่อผู้พัฒนา EA ได้ เผื่อกรณีในการสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับระบบ EA จะได้ปรึกษากับผู้พัฒนาโดยตรง
– อ่านคู่มือ EA Forex ให้ครบ
– เลือก Forex EA หลากหลายตัว เพื่อทำการศึกษาและเลือกใช้ตัวที่ต้องการมากที่สุด
– EA Forex ตัวนี้ใช้เทรดอะไร
– ตรวจสอบประสิทธิภาพของ EA ด้วยวิธีการ Back Test หรือ การทดลองการทำงานของ EA จากกราฟในอดีต อย่างน้อย 3 – 4 เดือน เพื่อดูการเทรดว่าเป็นไปในทิศทางที่เทรดเดอร์ต้องการหรือไม่? สามารถทำกำไรได้ตามที่วางเป้าไว้ไหม?
– ก่อนลงมือเทรดด้วย EA เป็นเรื่องสำคัญที่เทรดเดอร์ควรมีความรู้พื้นฐานเรื่องการเทรดด้วย อย่างน้อยเทรดเดอร์สามารถแก้ปัญหาได้ ถ้าเกิดกรณีฉุกเฉินระหว่างการเทรด
– หมั่นอัปเดตข่าวสารของตลาดการลงทุนตลอดเวลา
– คอยติดตามการทำงานของ EA สม่ำเสมอว่ายังได้ผลต่อการเทรดในตลาดที่ลงทุนอยู่ไหม
หลังจากการดาวน์โหลด Expert Advisor สิ่งแรกที่เทรดเดอร์ควรทำคือ การทดสอบคุณภาพของ EA ก่อนที่จะลงเงินจริงในการเทรด
กระบวนการทดสอบ แบ่งออกเป็น สองส่วน คือ back-testing และ forward testing
Forward testing หมายถึงการซื้อขายในบัญชีทดลองและจะดำเนินการเมื่อการ back-testing ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ในทางกลับกัน Back-testing หมายถึงการทดสอบโดยใช้ข้อมูลในอดีต มันจะแสดงภาพรวมของ EA และประสิทธิภาพของตราสารที่ซื้อขายต่างๆ เทรดเดอร์สามารถทำการทดสอบผ่าน MetaTrader 4 และแพลตฟอร์มการซื้อขายอื่น ๆ ได้
– คลิก “View” แล้วเลือก “Strategy Tester”
– แถบ “การตั้งค่า” จะเปิดขึ้น แล้วกำหนดเงื่อนไขสำหรับ backtesting
– หากต้องตั้งค่าพารามิเตอร์สำหรับการฝากเงินและ Expert Advisors, ให้คลิกที่ “Expert properties”
– บนแถบ “Testing” ให้ตั้งค่าเงินฝากเริ่มต้นเพื่อใช้สำหรับ Backtesting
– คลิก “Inputs” และกำหนด “Value” สำหรับพารามิเตอร์ของ Expert Advisor (EA) คุณไม่จำเป็นต้องแก้ไข “Start”, “Step” และ “Stop” เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ใช้เพิ่มประสิทธิภาพของระบบ
– คลิก “Start” เพื่อเริ่ม backtesting
– ผล backtesting จะอยู่ในแถบ “Report” นอกจากนี้ แถบ “Graph” ยังแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของยอดเงินในบัญชี
– สามารถบันทึกผล backtest โดยคลิกขวาที่รายงานแล้วเลือก “Save as Result”
การทดสอบ backtest จะต้องมีการวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อให้ทราบว่าระบบ EA นั้นดีตามที่คาดไว้หรือไม่ มีพารามิเตอร์มากมายที่เทรดเดอร์ควรทำความเข้าใจว่าตัวเลขนี้บ่งบอกถึงอะไร ไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกตัวเลข แต่จะมีพารามิเตอร์หลักๆ บางตัวที่สามารถใช้บ่งบอกถึงสภาพของระบบ EA ว่าเหมาะแก่การใช้งานหรือไม่
1 – กำไรสุทธิรวม (Total net profit)
คือตัวเลขทางการเงินของการซื้อขายทั้งหมดที่สร้างขึ้นโดยระบบการซื้อขายของเทรดเดอร์ ซึ่งผลลัพธ์ควรให้ผลกำไรแทนการขาดทุน
2 – ปัจจัยกำไร (Profit Factor)
ปัจจัยกำไรถูกกำหนดให้เป็นกำไรขั้นต้นหารด้วยผลขาดทุนรวม (รวมค่าคอมมิชชั่น) ในระยะเวลาการซื้อขายทั้งหมด ในส่วนนี้เกี่ยวข้องกับจำนวนของกำไรต่อหน่วยของความเสี่ยง โดยค่าที่มากกว่าหนึ่งบ่งชี้ถึงระบบที่ทำกำไรได้
3 – Maximal drawdown
Maximal drawdown คือการสูญเสียที่มากที่สุดของเงินที่ฝากและในเปอร์เซ็นต์ของเงินฝาก ตัวเลขนี้ไม่ควรมากเกินไป อย่างไรก็ตาม มันขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่คุณมีในบัญชีซื้อขายและเทรดเดอร์จะยอมรับความเสี่ยงได้มากเพียงใด ซึ่งไม่ควรเกิน 20% ของเงินที่มีในบัญชี ตัวเลขในส่วนนี้จะช่วยวัดปริมาณความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากระบบ และพิจารณาว่าระบบนั้นใช้งานได้จริงหรือไม่ โดยพิจารณาจากขนาดบัญชี หากจำนวนเงินที่เยอะที่สุดที่คุณเต็มใจที่จะเสี่ยงนั้นน้อยกว่า maximum drawdown ที่ระบบการทำได้ ระบบนั้นก็อาจไม่เหมาะสำหรับคุณ ควรใช้ระบบอื่นที่มี maximum drawdown ที่น้อยกว่า
นักเทรดสามารถทำเงินหนึ่งล้านดอลลาร์ได้ หากพวกเขาสามารถเสี่ยงได้ $10 ล้าน maximum drawdown จะต้องสอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของเทรดเดอร์และขนาดบัญชีซื้อขาย
4 – การซื้อขายทั้งหมด (Total trades)
คือจำนวนตำแหน่งการซื้อขายทั้งหมด สามารถวิเคราะห์ว่าระบบการซื้อขายว่าเป็นแบบรวดเร็วหรือกลางๆ โดยการเปรียบเทียบตัวเลขนี้กับ timeframe สำหรับการลงทุน ตัวอย่างเช่น หากการซื้อขายทั้งหมดคือ 200 ในสามเดือน หมายความว่าระบบการซื้อขายจะทำการซื้อขายโดยเฉลี่ย 3 ครั้งต่อวัน หมายความว่ากลยุทธ์นี้ไม่เร็วเกินไปและอาจเหมาะกับการซื้อขายระหว่างวัน
5 – กำไรการซื้อขาย(Profit trades)
พารามิเตอร์นี้บอกถึงจำนวนของตำแหน่งการซื้อขายที่ทำกำไร ซึ่งแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ พูดง่ายๆ ก็คือ พารามิเตอร์นี้จะบอกอัตราการชนะของระบบการซื้อขาย ยิ่งมากยิ่งดี
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเทรดเดอร์จะทำการทดสอบด้วย Backtesting แต่ก็ไม่ได้เป็นการการันตีว่า EA ที่ใช้จะให้ผลลัพธ์ดี 100% เนื่องจากเป็นการทดสอบจากราคาในอดีตมาวิเคราะห์ผลเท่านั้น ดังนั้นตัวเทรดเดอร์เองควรลองเทรดด้วยตัวเองบ้าง เพื่อทำความเข้าใจถึงแนวโน้มตลาดในปัจจุบันเนื่องจากราคาในอดีตอาจจะไม่เหมือนกับราคาที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เทรดเดอร์สามารถทดลองเทรดในบัญชี Demo ของ STARTRADER ได้ก่อนทำการลงมือเทรดด้วยเงินทุนจริง
Ticks modelled : ที่เรียกว่าการขยับของราคาที่เกิดขึ้นตอน test
Gross profit : ผลรวมกำไรของการซื้อขายทั้งหมด
Gross loss : ผลรวมขาดทุนของการซื้อขายทั้งหมด
Total net profit : กำไรสุทธิ (Total Net Profit = Gross Profit – Gross Loss)
Profit factor : อัตราส่วนของ gross profit และ gross loss
Total trades : จำนวนการ trade ทั้งหมดระหว่างการ Test
Expected payoff : ค่าเฉลี่ยของกำไรสุทธิต่อการ Trade แต่ละครั้ง
Absolute drawdown : ค่าความแตกต่างของจำนวนเงินที่เริ่มต้น test กับ ค่าต่ำสุดของค่า balance ระหว่างเทรด
Maximal Drawdown : ค่า Drawdown สูงสุดที่เกิดขึ้นตอนทำการ test ที่ไม่ควรเกิน 20%
Short positions (won %) : จำนวน Order Sell ของที่เทรดทั้งหมด และ Order ที่ได้กำไรโดยคิดเป็น % ของจำนวน order ที่เปิดทั้งหมด
Long positions (won %) : จำนวน Order Buy ของที่เทรดทั้งหมด และ Order ที่ได้กำไรโดยคิดเป็น % ของจำนวน order ที่เปิดทั้งหมด
Profit trades (% of total) : จำนวน Order ที่ได้กำไรทั้งหมด คิดเป็น % ของจำนวน order ที่เปิดทั้งหมด
Loss trades (% of total) : จำนวน Order ที่ขาดทุนทั้งหมด คิดเป็น % ของจำนวน order ที่เปิดทั้งหมด
Largest profit trade : กำไรสูงสุดในการเทรด
Largest loss trade : ขาดทุนสูงสุดในการเทรด
Average profit trade : ค่าเฉลี่ย ของ order ที่มีกำไร
Average loss trade : ค่าเฉลี่ย ของ order ที่ขาดทุน
Maximum consecutive wins (profit in money) : จำนวนครั้งที่ชนะติดต่อกันสูงสุด (จำนวนเงินที่ได้กำไร)
Maximum consecutive losses (loss in money) : จำนวนครั้งที่แพ้ติดต่อกันสูงสุด (จำนวนเงินที่ขาดทุน)
Maximal consecutive profit (count of wins) : กำไรต่อเนื่องสูงสุด (จำนวน Order ที่ชนะต่อเนื่อง)
Maximal consecutive loss (count of losses) : ขาดทุนต่อเนื่องสูงสุด (จำนวน Order ที่ขาดทุนต่อเนื่อง)
(แหล่งที่มาของคำศัพท์: https://eaforexes.com/2021/01/09/backtest-report/)
การใช้ Forex Expert Advisor จะช่วยให้เทรดเดอร์ได้ประโยชน์จากการเทรดมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ หรือทำการวิเคราะห์เทรดเอง นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้ backtests ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การใช้ EA สามารถทำกำไรได้ แต่ก็ไม่มีระบบไหนที่สามารถทำกำไรได้ 100% ตลอดไป เทรดเดอร์เองก็ควรทำการศึกษาและทดสอบก่อนทำการเทรดด้วยเงินจริง
หากคุณต้องการเทรดด้วย Forex Expert Advisor สามารถเปิดบัญชีกับ STARTRADER ได้เลยวันนี้ https://www.startrader.com/th/ เรามีทีมคอยให้ความช่วยเหลือเทรดเดอร์ตลอด 24/5
*การซื้อขายและลงทุนใน Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียมากกว่าเงินทุนทั้งหมด
งานสัมมนา Lots Academy Pool Villa Party Trade เทรดสดชนข่าว CPI ที่จังหวัดอุบลราชธานี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นงานที่ผสมผสานระหว่างความรู้และความสนุกได้อย่างลงตัว นำเสนอประสบการณ์เทรดสดที่เทรดเดอร์ไม่ควรพลาด…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบตารางด้านล่างต่อไปนี้สำหรับการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายประจำเดือนพฤศจิกายน โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง: วันที่ 4 พฤศจิกายน 2024(วันจันทร์) 11 พฤศจิกายน 2024(วันจันทร์) 15 พฤศจิกายน 2024(วันศุกร์) 20 พฤศจิกายน…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ขอเรียนให้ทราบว่าชั่วโมงการซื้อขายของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาออมแสงในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2024 สัญลักษณ์ เวลาซื้อขาย (GMT+2) Cocoa จันทร์ - พฤหัส: 11:45-20:30ศุกร์: 11:45-20:27 Coffee…
อินดิเคเตอร์พื้นฐาน (Basic Indicators) เป็นเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนและนักเทรดใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อหรือขายสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น, ฟอเร็กซ์, คริปโต หรือสินทรัพย์อื่น ๆ อินดิเคเตอร์เหล่านี้ใช้ข้อมูลจากราคา ปริมาณการซื้อขาย และความผันผวนของตลาดเพื่อวัดแนวโน้ม, โมเมนตัม,…
Dear Valued Clients, As we approach the 2024 U.S. election on November 5, 2024 (next…
CFD Contract Rollover เป็นกระบวนการสำคัญที่นักเทรดควรเข้าใจ โดยเฉพาะหากคุณลงทุนในสินทรัพย์ที่มีวันหมดอายุ เช่น ฟิวเจอร์สหรือสินค้าโภคภัณฑ์ การทำ Rollover ช่วยให้นักเทรดยังคงถือครองตำแหน่งในตลาดต่อไปได้โดยไม่ต้องปิดสัญญาเดิมเอง นี่คือทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการทำ CFD Contract Rollover สำหรับนักเทรดมือใหม่…