การเทรด คืออะไร หลายๆท่านอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ “การเทรด” หรือ “trading” มาบ้าง โดยอาจจะได้ยินมาจากเพื่อนๆ คนรู้จัก หรือญาติๆของเราก็ตาม ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า การเทรด หรือ การลงทุนเป็นสิ่งที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น การเทรด Forex, การเทรดในสกุลเงินดิจิตอล, การเทรดทองคำ หรือ การเทรดหุ้นก็ตาม ในวันนี้ทาง Star Trader จะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกันว่าจริงๆแล้ว “การเทรด” คืออะไรกันแน่
การเทรด คือ การแลกเปลี่ยนระหว่างสิ่ง 2 สิ่ง ซึ่งอาจจะเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่าง สกุลเงินหนึ่ง กับ สินค้าบางอย่าง หรืออาจเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินด้วยกันเองก็ได้ ซึ่งการแลกเปลี่ยนในชีวิตประจำวันของเราก็มีให้เห็นด้วยกันหลายอย่าง เช่น การที่เราเดินไปซื้ออาหารที่ร้านอาหารตามสั่ง เราในฐานะผู้ซื้อก็จะต้องนำเงินไปแลกกับอาหารของคนขาย ในขณะที่คนขายอาหารก็จะต้องนำเอาอาหารมาแลกกับเงินของเรา หรือ การที่เราไปใช้บริการการตัดผมที่ร้านตัดผม เราในฐานะผู้ใช้บริการร้านตัดผมก็ต้องนำเอาเงินไปแลกการบริการจากช่างตัดผม ส่วนช่างตัดผมก็ต้องใช้บริการการตัดผมของตนเองมาแลกกับเงินของเรา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การแลกเปลี่ยนดังกล่าวเป็นการแลกเปลี่ยนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออุปโภค บริโภคในชีวิตประจำวันทั้งสิ้น แต่ถ้าหากเราพูดถึงการเทรด วัตถุประสงค์ก็จะเป็นไปเพื่อการหากำไรจากส่วนต่างของราคา หรือ จากประโยชน์อย่างอื่น เช่นค่า swap (กรณีเทรด CFD) เงินปันผล (กรณีเทรดหุ้น) หรือ อัตราดอกเบี้ย เป็นต้น
โดยทั่วไปเวลาที่เทรดเดอร์จะทำการเทรด ก็จะต้องเทรดในโปรแกรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น C trader, MT4 หรือ MT5 รวมถึงโปรแกรมเทรดอื่นๆ ซึ่งเวลาที่จะส่งคำสั่งในการเทรด ก็จะมีคำสั่งอยู่ 2 ประเภท
1.1. BUY คือ คำสั่งเทรดที่ออกไปโดยคาดหวังว่าราคาจะขึ้น ฉะนั้นหากราคาเพิ่มขึ้นจากราคาที่เข้า เราก็จะได้กำไร แต่ถ้าหากราคาลดลง เราก็จะขาดทุน
เช่น เราซื้อ (BUY) XAUUSD (ทองคำ) 1 ออนซ์ ที่ราคา 1900 ดอลลาห์ต่อออนซ์ ต่อมาราคาขึ้นไปที่ 1950 ดอลลาห์ต่อออนซ์ แล้วเราทำการปิดออเดอร์ เราก็จะได้กำไร 50 ดอลลาห์สหรัฐฯ(USD) หรือ กรณีที่เราทำการ ซื้อ (BUY) USOUSD (น้ำมัน WTI) 1 บาร์เรล ตอนที่ราคาอยู่ที่ระดับ 85 ดอลลาห์ต่อบาร์เรล ต่อมาหากราคาขึ้นไปที่ระดับ 100 ดอลลาห์ต่อบาร์เรล แล้วเราทำการปิดออเดอร์ เราก็จะได้กำไร 15 ดอลลาห์สหรัฐฯ (USD)
เช่น เราซื้อ (BUY) XAUUSD (ทองคำ) ที่ราคา 1850 ดอลลาห์ต่อออนซ์ ต่อมาราคาลงไปที่ 1800 ดอลลาห์ต่อออนซ์แล้วเราทำการปิดออเดอร์ เราก็จะขาดทุน 50 ดอลลาห์สหรัฐฯ(USD) หรือ กรณีที่เราทำการซื้อ (BUY) USOOIL (น้ำมัน WTI) ตอนที่ราคาอยู่ที่ระดับ 85 ดอลลาห์ต่อบาร์เรล ต่อมาหากราคาลงไปที่ระดับ 75 ดอลลาห์ต่อบาร์เรล แล้ว เราทำการปิดออเดอร์ เราก็จะขาดทุน 10 ดอลลาห์สหรัฐฯ (USD)
1.2. SELL คือ คำสั่งเทรดที่ออกไปโดยคาดหวังว่าราคาจะลง ฉะนั้นหากราคาลดลงจากราคาที่เข้า เราก็จะได้กำไร แต่ถ้าหากราคาเพิ่มขึ้น เราก็จะขาดทุน
เช่น เราขาย (SELL) XAUUSD (ทองคำ) 1 ออนซ์ที่ราคา 1900 ดอลลาห์ต่อออนซ์ ต่อมาราคาลงไปที่ 1850 ดอลลาห์ต่อออนซ์ แล้วเราทำการปิดออเดอร์ เราก็จะได้กำไร 50 ดอลลาห์สหรัฐฯ (USD) หรือ กรณีที่เราทำการขาย (SELL) USOUSD (น้ำมัน WTI) 1 บาร์เรล ตอนที่ราคาอยู่ที่ระดับ 85 ดอลลาห์ต่อบาร์เรล ต่อมาหากราคาขึ้นไปที่ระดับ 75 ดอลลาห์ต่อบาร์เรล แล้ว เราทำการปิดออเดอร์ เราก็จะได้กำไร 10 ดอลลาห์สหรัฐ (USD)
เช่น เราขาย (SELL) XAUUSD (ทองคำ) ที่ราคา 1850 ดอลลาห์ต่อออนซ์ ต่อมาราคาขึ้นไปที่ 1900 ดอลลาห์ต่อออนซ์ แล้วเราทำการปิดออเดอร์ เราก็จะขาดทุน 50 ดอลลาห์สหรัฐฯ (USD) หรือ กรณีที่เราทำการ SELL USOUSD (น้ำมัน WTI) ตอนที่ราคาอยู่ที่ระดับ 85 ดอลลาห์ต่อบาร์เรล ต่อมาหากราคาขึ้นไปที่ระดับ 100 ดอลลาห์ต่อบาร์เรล แล้ว เราทำการปิดออเดอร์ เราก็จะขาดทุน 15 ดอลลาห์สหรัฐ (USD)
ตามข้อความด้านบน ได้มีการอธิบายความหมายของการ BUY และ SELL ไปแล้วในความหมายอย่างง่าย ต่อไปเราจะทำการอธิบายความหมายของการ BUY และ SELL ในเชิงการแลกเปลี่ยน ซึ่งก่อนที่จะอธิบายเราจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเวลาที่เราทำการเทรดในโปรแกรมเทรดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น MT4, MT5 หรือ Ctrader สัญลักษณ์ของสินค้าจะมี 2 ฝั่งที่จับคู่กัน ซึ่งสามารถยกตัวอย่างได้ดังต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 1 ทองคำ ก็จะเป็นการจับคู่กันระหว่าง XAU กับ USD โดย XAU ก็คือทองคำ ซึ่งมีหน่วยเป็นออนซ์ (Ounce) ในขณะที่ USD ก็คือสกุลเงินดอลลาห์ เพราะฉะนั้น XAUUSD เท่ากับ 1800 ความหมายก็คือ ทองคำ 1 ออนซ์ เท่ากับ 1800 ดอลลาห์สหรัฐนั่นเอง
ตัวอย่างที่ 2 USDJPY ก็จะเป็นการจับคู่กันระหว่าง USD กับ JPY โดย USD ก็คือสกุลเงินดอลลาห์สหรัฐ ในขณะที่ JPY ก็คือสกุลเงินเยน เพราะฉะนั้น USDJPY เท่ากับ 110.500 ความหมายก็คือ 1 USD เท่ากับ 110.500 JPY
ตัวอย่างที่ 3 ETHUSD ก็จะเป็นการจับคู่กันระหว่าง ETH กับ USD โดย Etherum ก็คือ ETH ซึ่งมีหน่วยเป็น ETH ในขณะที่ USD ก็คือสกุลเงินดอลลาห์สหรัฐ เพราะฉะนั้น ETH เท่ากับ 3000 ความหมายก็คือ Ethereum 1 เหรียญ เท่ากับ 3000 ดอลลาห์สหรัฐนั่นเอง
นอกจากนี้ในบางสินค้าอาจเห็นไม่ชัดว่ามีสินค้าสองฝั่ง แต่ความเป็นจริงแล้วก็มี 2 ฝั่งเช่นกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 1 SPX500+ ก็จะเป็นการจับคู่กันระหว่าง S&P500 กับ USD โดย SPX500+ ซึ่งมีหน่วยเป็น Contract ในขณะที่ USD ก็คือสกุลเงินดอลลาห์สหรัฐ เพราะฉะนั้น SPX500+ เท่ากับ 4000 ความหมายก็คือ S&P500 จำนวน 1 Contract เท่ากับ 4,000 ดอลลาห์สหรัฐนั่นเอง
ตัวอย่างที่ 2 AAPL ก็จะเป็นการจับคู่กันระหว่าง หุ้น Apple กับ USD โดยหุ้น Apple ซึ่งมีหน่วยเป็นหุ้น ในขณะที่ USD ก็คือสกุลเงินดอลลาห์สหรัฐ เพราะฉะนั้น AAPL เท่ากับ 130 ความหมายก็คือ หุ้น Apple จำนวน 1 หุ้น เท่ากับ 130 ดอลลาห์สหรัฐนั่นเอง
ตัวอย่างที่ 3 UK100+ ก็จะเป็นการจับคู่กันระหว่าง ดัชนีตลาดหุ้นอังกฤษ (FTSE100) กับ GBP โดย FTSE100 ซึ่งมีหน่วยเป็น Contract ในขณะที่ GBP ก็คือสกุล
พอเรารู้แล้วว่าสินค้าที่ทำการเทรดทุกสินค้าจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คราวนี้เราก็จะมาอธิบายความหมายของการ BUY และ SELL ในการแลกเปลี่ยนกัน
2.1. การ BUY คือการเอาสกุลเงินทางขวา มาแลกกับ สกุลเงิน หรือ สินค้าทางด้านซ้าย
เช่น การ BUY XAUUSD 1 ออนซ์ ที่ราคา 1900 ความหายก็คือการที่เอาสกุลเงินดอลลาห์สหรัฐ(USD) 1900 USD ไปแลกกับทองคำ(XAU) จำนวน 1 ออนซ์
การ BUY USOUSD 1 บาร์เรล ที่ราคา 80 ความหายก็คือการที่เอาสกุลเงินดอลลาห์สหรัฐ(USD) 80 USD ไปแลกกับน้ำมัน WTI (USO) 1 บาร์เรล การ BUY GBPJPY 1 ปอนด์ ที่ราคา 157.000 ความหายก็คือการที่เอาสกุลเงินเยน(JPY) 157 JPY ไปแลกกับสกุลเงินปอนด์ (GBP) 1 GBP เงินปอนด์ เพราะฉะนั้น UK100+ เท่ากับ 7860 ความหมายก็คือ ดัชนีตลาดหุ้นอังกฤษ (FSTE100) 1 Contract เท่ากับ 7,860 ปอนด์นั่นเอง
2.2. การ SELL คือการเอาสกุลเงินทางซ้าย มาแลกกับสกุลเงิน หรือ สินค้าทางด้านขวา
เช่น การ SELL XAUUSD 1 ออนซ์ ที่ราคา 1900 ความหายก็คือการที่เอาทองคำ(XAU) 1 ออนซ์ ไปแลกกับสกุลเงินดอลลาห์สหรัฐ(USD) 1900 USD
การ SELL USOUSD 1 บาร์เรล ที่ราคา 80 USD ความหายก็คือการที่เอาน้ำมัน WTI(USO) 1 บาร์เรล ไปแลกกับสกุลเงินดอลลาห์สหรัฐ(USD) 80 USD
การ SELL GBPJPY 1 ปอนด์ ที่ราคา 157.000 คือการที่เอาสกุลเงินปอนด์(GBP) 1 ปอนด์ ไปแลกกับสกุลเงินเยน (JPY) 157 เยน
*การซื้อขายและลงทุนใน Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียมากกว่าเงินทุนทั้งหมด
ในการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ นักลงทุนควรใช้ตัวชี้วัดการเทรดที่มีประสิทธิภาพเพื่อประเมินผลการลงทุนของตนเอง ตัวชี้วัดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการตัดสินใจในการซื้อขาย แต่ยังช่วยให้คุณวัดประสิทธิภาพและปรับปรุงกลยุทธ์การลงทุนของคุณได้อย่างต่อเนื่อง นี่คือตัวชี้วัดสำคัญที่นักลงทุนทุกคนควรรู้ 1. อัตราการชนะ (Win Rate) คือสัดส่วนของจำนวนการเทรดที่ประสบความสำเร็จเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนการเทรดทั้งหมดที่ดำเนินการ โดยเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยในการประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนหรือการเทรด อัตราการชนะบ่งบอกถึงความสามารถในการทำกำไรจากการเทรด และเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณทราบว่าแนวทางการเทรดของคุณมีประสิทธิภาพเพียงใด วิธีการคำนวณ: ตัวอย่าง:…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบตารางการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายประจำเดือนพฤศจิกายนด้านล่างนี้ โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2024(วันพุธ) 28 พฤศจิกายน 2024(วันพฤหัส) 29 พฤศจิกายน 2024(วันศุกร์) 30 พฤศจิกายน…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ขอเรียนให้ทราบว่าระดับ margin call และ stop-out จะมีการปรับเปลี่ยนตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2024 เพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับปรุงสภาพแวดล้อมการซื้อขายของลูกค้าให้ดีที่สุด โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับการเปลี่ยนแปลง: ระดับปัจจุบัน ระดับใหม่ ระดับ Margin Call 80%…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ขอเรียนให้ทราบว่าเลเวอเรจของผลิตภัณฑ์ CFD หุ้นสหรัฐทั้งหมดจะมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2024 เป็นต้นไป เพื่อพัฒนาศํกยภาพและปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการซื้อขายให้ดียิ่งขึ้น โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการเปลี่ยนแปลง สัญลักษณ์เลเวอเรจปัจจุบันเลเวอเรจใหม่All US Shares1:201:33 * เวลาทั้งหมดที่ระบุไว้คือ GMT+2 (เวลาเซิร์ฟเวอร์ใน MT4 และ MT5)…
เรียน ลูกค้าที่เคารพทุกท่าน STARTRADER ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของลูกค้าเสมอ เราจึงนำระบบการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) มาใช้เพื่อให้การเทรดของท่านเป็นไปอย่างปลอดภัย คลิกที่นี่เพื่อดูขั้นตอนการเปิดใช้งานและตั้งค่าได้ง่ายๆ การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) เป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลกนำมาใช้มากที่สุด เพื่อยกระดับความปลอดภัยของบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เปิดใช้งาน 2FA เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับทุกการเทรด…
เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ขอเรียนให้ทราบว่าผลิตภัณฑ์ซื้อขาย CFD ต่อไปนี้จะโรลโอเวอร์ตามวันที่ระบุไว้ในตารางด้านล่างนี้ เนื่องจากอาจมีความแตกต่างของราคาระหว่างสัญญาเก่าและใหม่ จึงขอแนะนำให้ลูกค้าตรวจสอบและจัดการโพสิชันของคุณตามความเหมาะสม วันหมดอายุ: สัญลักษณ์ คำอธิบาย วันที่ FRA40ft FRA40ft 2024-11-14 CL-OIL Crude…